Monday, March 12, 2012

วิธีการอัปเกรด Windows 7 เป็น Windows 8 แบบ In-Place

วิธีการอัปเกรด Windows 7 เป็น Windows 8 Consumer Preview แบบ In-Place โดยใช้ Windows 8 USB Flash Drive
การอัปเกรดจาก Windows 7 ไปเป็น Windows 8 แบบ In-Place Upgrade สามารถทำได้ 2 วิธี วิธีที่ 1 คือการใช้โปรแกรม Windows 8 Consumer Preview Setup ซึ่งเป็นโปรแกรมแบบเว็บเบสที่รวมเอาคุณสมบัติที่มีใน Upgrade Advisor, Setup และ Windows Easy Transfer มาอยู่ในโปรแกรมเดียว ส่วนวิธีที่ 2 คือการใช้ชุดติดตั้ง Windows 8 แบบดีวีดีหรือยูเอสบีแฟลชไดรฟ์

สำหรับวิธีการอัปเกรด Windows 7 เป็น Windows 8 โดยใช้ Windows 8 Consumer Preview Setup นั้นผมได้สาธิตไปก่อนหน้านี้ ในบทความนี้จึงขอสาธิตการอัปเกรด Windows 7 ไปเป็น Windows 8 โดยใช้ชุดติดตั้ง Windows 8 CP แบบยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ (วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับแผ่นดีวีดีติดตั้ง Windows 8)

สำหรับวิธีการสร้างชุดติดตั้ง Windows 8 CP แบบยูเอสบีแฟลชไดรฟ์สามารถอ่านได้ที่เว็บไซต์ Create a bootable USB flash drive with Windows 8 setup ส่วนวิธีการติดตั้ง Windows 8 CP สามารถอ่านได้ที่เว็บไซต์ Clean Install Windows 8

In-Place Upgrade
In-Place Upgrade คือการอัปเกรดจาก Windows เวอร์ชันที่กำลังติดตั้งและรันอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ไปเป็น Windows เวอร์ชันใหม่กว่า สำหรับการอัปเกรดเป็น Windows 8 แบบ In-Place นั้นจะมีฟังก์ชันช่วยในการย้ายแอพพลิเคชัน, การตั้งค่าของระบบ Windows และบัญชีผู้ใช้พร้อมข้อมูลของผู้ใช้ ขึ้นไปยังระบบใหม่ได้ทำให้ไม่ต้องทำการติดตั้งแอพพลิเคชัน ตั้งค่าระบบ และบัญชีผู้ใช้พร้อมข้อมูลของผู้ใช้ ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับเวอร์ชันที่ทำการอัปเกรด ดังรูปที่ 1

รูปที่ 1

สำหรับวิธีการอัปเกรด Windows 7 (ในที่นี้ใช้รุ่น Enterprise พร้อมกับ SP1) ไปเป็น Windows 8 CP แบบ In-Place โดยใช้ชุดติดตั้ง Windows 8 CP แบบยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ มีขั้นตอนดังนี้

1. บูทเครื่องคอมพิวเตอร์ทดสอบเข้าระบบ Windows 7 แล้วไซน์อินด้วยผู้ใช้กลุ่ม Administrator จากนั้นให้ต่อยูเอสบีแฟลชไดรฟ์สำหรับติดตั้ง Windows 8 CP เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเปิด Windows Explorer โดยคลิก Start แล้ว Computer แล้วคลิกเลือกไดรฟ์ที่จะใช้ติดตั้ง Windows 8 จากนั้นคลิกบนไฟล์ Setup.exe แล้วคลิก Yes ในหน้า UAC (ถ้ามี) จะปรากฏหน้าต่าง Get the latest ดังรูปที่ 2 ให้เลือกหัวข้อที่ต้องการเสร็จแล้วคลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

รูปที่ 2

2. ในหน้าต่าง Product key ดังรูปที่ 3 ให้ใส่หมายเลขผลิตภัณฑ์ของ Windows 8 Consumer Preview ที่ได้รับจากการดาวน์โหลด หรือใส่เป็น DNJXJ-7XBW8-2378T-X22TX-BKG7J เสร็จแล้วคลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

รูปที่ 3

3. ในหน้าต่าง License terms ดังรูปที่ 4 จากนั้นให้คลิกเลือกช่อง I accept the license terms เพื่อยอมรับข้อตกลงการใช้งาน เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Accept เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

รูปที่ 4

4. ในหน้าต่าง What do you want to keep in Windows 8 Consumer Preview? ดังรูปที่ 5 จะมี 3 ตัวเลือกให้เลือกดำเนินการ ดังนี้
  1. Windows Settings, personal files, and apps ทำการอัปเกรด Windows ที่กำลังรันอยู่ไปเป็น Windows 8 CP โดยย้ายข้อมูลการตั้งค่าของ Windows, ข้อมูลส่วนตัว และแอพต่างๆ ขึ้นไปอยู่บน Windows 8 CP
  2. Just personal files ทำการอัปเกรด Windows ที่กำลังรันอยู่ไปเป็น Windows 8 CP โดยย้ายเฉพาะ ข้อมูลส่วนตัวไปบน Windows 8 CP
  3. Nothing ทำการอัปเกรด Windows ที่กำลังรันอยู่ไปเป็น Windows 8 CP โดยไม่ย้ายข้อมูลเก่า (ลบทิ้งทั้งหมด)

รูปที่ 5

ในที่นี้เลือกเป็นตัวเลือกที่ 1: Windows Settings, personal files, and apps จากนั้นคลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

5. ระบบจะทำการตรวจสอบโปรแกรมที่มีการติดตั้งอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ และจะแสดงหน้าต่าง What you need to do ดังรูปที่ 6 แจ้งให้ทำการถอนการติดตั้งโปรแกรมที่ไม่สนับสนุน Windows 8 ออก (ถ้ามี)

ถ้ามีโปรแกรมที่ไม่สนับสนุน Windows 8 ดังรูปที่ 6 ให้คลิกปุ่ม Uninstall เพื่อถอนโปรแกรมที่มีปัญหาออก หลังจากทำการถอนโปรแกรมที่มีปัญหาเสร็จแล้ว ระบบจะแจ้งให้ทำการรีสตาร์ทระบบดังรูปที่ 4 ให้คลิกปุ่ม Restart PC แล้วรอจนระบบพร้อมทำงาน (!ในระหว่างนี้ห้ามถอดยูเอสบีแฟลชไดรฟ์หรือเอาแผ่นดีวีดีออกจากไดรฟ์)

รูปที่ 6

รูปที่ 7

5. หลังจากรีสตาร์ทเสร็จจะปรากฏหน้าต่าง Ready to install Windows 8 Consumer Preview ดังรูปที่ 8 ให้เลือก Continue from where I left off เสร็จแล้วคลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

รูปที่ 8

6. ในหน้าต่าง Ready to install ดังรูปที่ 9 ให้ตรวจสอบความถูกต้อง หากมีข้อผิดพลาดให้คลิกปุ่ม Back เพื่อทำการแก้ไข หากไม่มีให้คลิกปุ่ม Install เพื่อเริ่มการติดตั้ง Windows 8 CP

รูปที่ 9

ระบบจะทำการติดตั้ง Windows 8 Consumer Preview โดยในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาดำเนินการนานหลายนาที และมีการรีสตาร์ทเครื่องหลายรอบ

รูปที่ 10

7. หลังจากทำการติดตั้ง Windows 8 CP และย้ายข้อมูลต่างๆ แล้วเสร็จจะปรากฏหน้าต่าง Personalize ให้เลือกสีของฉากหลังดังรูปที่ 11 ให้เลือกสีที่ต้องการเสร็จแล้วคลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

รูปที่ 11

8. ทำการไซน์อินเข้า Windows 8 โดยใช้ Username และ Password ที่เคยใช้กับ Windows 7 (ในขั้นตอนที่ 1) จากนั้นจะปรากฏหน้า Start ดังรูปที่ 12

รูปที่ 12

ผลการอัปเกรด Windows 7 เป็น Windows 8
การอัปเกรด Windows 7 เป็น Windows 8 ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งรวมถึง Microsoft Office 2010,  ข้อมูลการตั้งค่าระบบ และบัญชีผู้ใช้บน Windows 7 ได้ถูกย้ายขึ้นไปอยู่บน Windows 8 โดยอัตโนมัติ โดยโปรแกรมต่างๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติแต่พบปัญหาเล็กน้อยในส่วนกราฟิกไดรเวอร์ซึ่งคาดว่าบริษัทผู้ผลิตกราฟิกการ์ดน่าจะออกไดรเวอร์สำหรับ Windows 8 เมื่อมีการออกเวอร์ชันเต็ม

ความเห็นของผู้เขียน
ผู้เขียนประทับใจการอัปเกรด Windows 7 เป็น Windows 8 ค่อนข้างมาก เพราะมีขั้นตอนที่ง่าย มีตัวช่วยในกรณีมีโปรแกรมที่ไม่สนับสนุน Windows 8 และโปรแกรมต่างๆ ที่เคยติดตั้งเคยติดตั้งอยู่บน Windows 7 ซึ่งรวมถึง Microsoft Office 2010 ถูกย้ายขึ้นไปอยู่บน Windows 8 โดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะ Microsoft Office 2010 นั้นนอกจากสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้วที่สำคัญ "ยังรักษาสถานะการแอคติเวตไว้อีกด้วย" ซึ่งน่าจะทำให้ไมโครซอฟท์ใช้เป็นจุดแข็งเพื่อโน้มน้าวผู้ใช้ Windows 7 ให้อัปเกรดเป็น Windows 8 ได้ง่ายขึ้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

Copyright © 2012 TWA Blog. All Rights Reserved.

0 Comment: