Saturday, July 18, 2009

Windows 7 Build 7600 Clean Install

วิธีการติดตั้ง Windows 7 Build 7600
ผมคิดว่าหลายท่านรวมทั้งผมเองด้วยคงสับสนเกี่ยวกับหมายเลขเวอร์ชันของ Windows 7 Released to Manufacturing (RTM) ซึ่งเป็นเวอร์ชันเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากบางเว็บไซต์รายงานว่า Windows 7 Build 7600 คือเวอร์ชัน RTM แต่ก็มีบางเว็บไซต์ที่รายงานว่า Windows 7 Build 7700 ต่างหากที่เป็นเวอร์ชัน RTM ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีการยืนยันหมายเวอร์ชันของ Windows 7 RTM อย่างเป็นทางการจากไมโครซอฟท์ ดังนั้นเราก็คงต้องรอให้ Windows 7 RTM ออกอย่างเป็นทางการ เมื่อถึงตอนนั้นก็คงจะได้ทราบกันว่าหมายเลขเวอร์ชันที่แท้จริงของ RTM เป็นตัวใด สำหรับบทความนี้ผมขอนำวิธีการและขั้นตอนการติดตั้ง Windows 7 Build 7600 พร้อมภาพประกอบมาฝากกันครับ

การติดตั้ง Windows 7 Build 7600 นั้น จะคล้ายๆ กันกับการติดตั้ง Windows 7 RC (Build 7100) โดยในการทดลองนี้จะติดตั้งเวอร์ชัน 64-bit บนเครื่องเวอร์ชวลคอมพิวเตอร์ที่รันบน Windows Server 2008 Hyper-V โดยผมคอนฟิกเวอร์ชวลแมชชีนให้ใช้ RAM 2GB เวอร์ชวลฮาร์ดดิสก์ขนาด 32 GB

สำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้นใช้ระบบ Windows Server 2008 SE with SP2 (64-bit) ฮาร์ดแวร์เป็น IBM x3650 ใช้ซีพียู Intel E5540 2.83GHz, RAM 8GB, Hard Disk 3x146 GB

System Requirements สำหรับ Windows 7 Build 7600
Windows 7 Build 7600 มีความต้องการระบบขั้นต่ำดังนี้
  • CPU: 1 GHz 32-bit หรือ 64-bit
  • Memory: 1 GB สำหรับเวอร์ชัน 32-bit และ 2 GB สำหรับเวอร์ชัน 64-bit
  • Disk space: 16 GB สำหรับเวอร์ชัน 32-bit และ 20 GB สำหรับเวอร์ชัน 64-bit
  • Graphics: รองรับ DirectX 9 และ Windows Display Driver Model 1.0 หรือสูงกว่า สำหรับการใช้งาน Aero theme
  • Other: DVD-R/W Drive, Internet access (สำหรับดาวน์โหลด Windows 7 RC และ Update)

หมายเหตุ: ความต้องการระบบของ Windows 7 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ใน Windows 7 เวอร์ชันไฟนอล

ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 7 Build 7600
การติดตั้ง Windows 7 Build 7600 มีขั้นตอนดังนี้
1. เมื่อทำการบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยแผ่นดีวีดี Windows Setup จะได้หน้าจอ Windows is loading files และ Starting Windows ดังรูปที่ 1 ให้รอจนระบบทำงานแล้วเสร็จ

Windows 7 RC
รูปที่ 1 Starting Windows

2. ในหน้าต่าง Install Windows ให้เลือกภาษาที่ต้องการ และตั้งค่าอื่นๆ ตามความต้องการ เสร็จแล้วคลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป
ในที่นี้เลือก:
Language to install: English
Time and currency format: English (United States)
Keyboard or input method: US


รูปที่ 2 Install Windows

3. ในหน้าต่างถัดไปให้คลิก Install Now เพื่อทำเริ่มการติดตั้ง Windows 7


รูปที่ 3 Install Now

4. ในหน้าต่าง Please read the license terms ให้อ่าน License Terms เสร็จแล้ว ให้คลิกเช็คบ็อกซ์ I accept the license terms จากนั้นคลิก Next เพื่อไปยังหน้าถัดไป


รูปที่ 4 EULA

5. ในหน้าต่าง Which type of installation do you want? ให้เลือกเป็น Custom (Advanced)


รูปที่ 5 Custom (Advanced) installation

6. ในหน้าต่าง Where do you want to install Windows? ให้เลือก Hard Disk/Partition ที่ต้องการติดตั้ง เสร็จแล้วคลิก Next


รูปที่ 6

หมายเหตุ: ในกรณีที่ใน Hard Disk/Partition ที่เลือกมีการติดตั้งวินโดวส์เวอร์ชันอื่นอยู่ ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือน ให้คลิก OK เพื่อยืนยันการติดตั้ง Windows 7

7. ระบบจะเริ่มทำการติดตั้ง Windows โดยจะดำเนินการต่างๆ ดังนี้ คือ Copying files, Expanding files, Installing features และ Installing updates หลังจากทำการติดตั้งขั้นตอน Installing updates แล้วเสร็จ จะทำการรีสตาร์ทระบบ 1 ครั้ง หลังจากรีสตาร์ทเสร็จจะทำขั้นตอน Completing Installation ต่อ หลังจากทำขั้นตอน Completing Installation แล้วเสร็จ จะทำการรีสตาร์ทระบบอีก 1 ครั้ง


รูปที่ 7

8. ในหน้าต่าง Set Up Windows ระบบจะให้เลือก User name และตั้งชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้พิมพ์ User name ที่ต้องการในกล่องใต้ Type a user name: จากนั้นใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการในกล่องใต้ Type a computer name: เสร็จแล้วคลิก Next


รูปที่ 8

9. ในหน้าต่าง Set a password for your account ระบบจะให้กำหนดรหัสผ่านสำหรับ User name ที่สร้างในขั้นตอนที่ 8 ใส่รหัสผ่านที่ต้องการ 2 ครั้ง ในกล่องใต้ Type a password (recommended): และ Retype your password: จากนั้นพิมพ์ข้อมูลช่วยจำรหัสผ่านในช่อง Type a password hint: เสร็จแล้วคลิก Next


รูปที่ 9 Set a password for your account

หมายเหตุ:
ในขั้นตอนที่ 9 นี้ ไม่จำเป็นต้องกำหนดรหัสผ่านก็ได้ แต่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบ ผมขอแนะนำให้กำหนดรหัสผ่าน และในกรณีที่กำหนดรหัสผ่านจะต้องกำหนดข้อมูลช่วยจำรหัสผ่านด้วย ระบบจึงจะยอมให้ดำเนินการในขั้นตอนถัดไป

10. ในหน้าต่าง Type your Windows product key ให้ใส่หมายเลขโปรดักส์คีย์ (ขั้นตอนนี้เป็นอ็อปชันไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ โดยหมายเลขโปรดักส์คีย์นั้น ไมโครซอฟท์ให้มาพร้อมกับการดาวน์โหลด) เสร็จแล้วคลิก Next


รูปที่ 10 Type your Windows product key

หมายเหตุ: ผมแนะนำให้เคลียร์เช็คบ็อกซ์ Automatically activate Windows when I'm online แล้วค่อยทำการแอคติเวตแบบแมนนวลภายหลัง

11. ในหน้าต่าง Help protect your computer and improve Windows automatically ให้เลือก Use recommended settings หรือ Install important updates only หรือ Ask me later ในที่นี้เลือกหัวข้อหลัง


รูปที่ 11 Help protect your computer and improve Windows automatically

12. ในหน้าต่าง Review your time and date settings ให้ทำการตั้ง Time Zone ให้ตรงพื้นที่ใช้งาน และตั้ง Date และ Time ให้ตรงกับวัน-เวลาจริง เสร็จแล้วคลิก Next


รูปที่ 12 Review your time and date setting

หมายเหตุ: Time Zone ใน Windows 7 นั้นจะเปลี่ยนจาก GMT เป็น UTC ตัวอย่างเช่นไทม์โซนของประเทศไทยจะเปลี่ยนจาก GMT+07:00 เป็น UTC+07.00

13. ในหน้าต่าง Select your computer's current location ให้เลือกเป็น Home network หรือ Work network หรือ Public network


รูปที่ 13 Select your computer's current location

หมายเหตุ: ขั้นตอนนี้จะมีเฉพาะในกรณีมีการเชื่อมต่อกับระบบเน็ตเวิร์ก

14. วินโดวส์จะทำการจัดเตรียมระบบตามการตั้งค่าต่างๆ ที่กำหนดในขั้นตอนด้านบน เมื่อเสร็จแล้วก็จะได้หน้า Desktop ดังรูปด้านล่าง

Windows 7 Desktop
รูปที่ 14 Windows 7 Build 7600 Desktop

• หมายเลขเวอร์ชันของ Windows 7 Build 7600
หลังจากทำการติดตั้ง Windows 7 Build 7600 เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถดูหมายเลขเวอร์ชันได้โดยการรันคำสั่ง winver (คลิก Start พิมพ์ winver ในช่อง Search programs and files เสร็จแล้วกด Enter) ซึ่งหมายเลขเวอร์ชันของ Windows 7 Build 7600 เป็น 6.1 (Build 7600) และจุดที่แตกต่างอีกหนึ่งอย่างคือ Build 7600 จะไม่มีวันหมดอายุ ในขณะที่เวอร์ชัน RC จะหมดอายุในวันที่ 2 มีนาคม 2553

หมายเหตุ: ถ้าหากรันคำสั่ง ver ที่คอมมานด์พร็อมท์หมายเลขเวอร์ชันคือ 6.1.7600

Windows 7 Build 7600 Version Number
รูปที่ 15 Windows 7 Build 7600 Version Number

• Windows 7 Build 7600 Log on Screen
เมื่อทำการสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 7 Build 7600 จะได้หน้า Log on Screen ดังรูปด้านล่าง ซึ่งจะเหมือนกับเวอร์ชัน RC Build 7100

Log on Screen
รูปที่ 16 Log on Screen

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

© 2009 TWAB. All Rights Reserved.

6 Comment:

Pairoj101 said...

ราคาอยู่ประมาณ กี่บาทครับ

dtp said...

- Windows 7 Home Premium (Full): USD $199.99 (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7,000 บาท)

- Windows 7 Professional (Full): USD $299.99 (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10,500 บาท)

รายละเอียดทั้งหมดที่ >> http://thaiwinadmin.blogspot.com/2009/06/kb212.html

BuBBleB said...

ขอบคุณครับ เดี่ยวจะลองลงดู ^^

Anonymous said...

ของผม Build ตามข้างบนเป๊ะ...........

ยังงัยต้อง ACTIVATE ภายใน 30 วัน ครับ

Anonymous said...

Work สุดๆๆ

g2webhost said...

ใจจ้า